แนวทางการเรียกสินไหมค่าขาดประโยชน์ระหว่างซ่อมรถ
ก่อนหน้านี้เราได้ให้ความรู้เกี่ยวกับค่าขาดประโยชน์ระหว่างซ่อมรถยนต์มาแล้ว วันนี้เราจะมาให้ความรู้เกี่ยวกับเอกสารประกอบการเรียกร้องและขั้นตอนการเรียกร้อง หากเมื่อใดที่เราขับขี่รถยนต์แล้วเกิดอุบัติเหตุแต่เราเป็นฝ่ายถูก เราสามารถเรียกสินไหมค่าขาดประโยชน์ระหว่างซ่อมรถได้จากบริษัทประกันภัยของคู่กรณี โดยขั้นตอนและเอกสารที่ต้องเตรียมสำหรับการเรียกร้องในกรณีดังกล่าวประกอบด้วย
- ถ่ายรูปเก็บไว้เพื่อเป็นหลักฐาน
- เอกสารสำเนาใบเคลม สำหรับของคู่กรณีอาจถ่ายเป็นสำเนาหรือถ่ายรูปเก็บไว้ และควรมีหมายเลขการเคลมชัดเจน
- เมื่อนำรถเข้าซ่อมที่อู่ควรมีเอกสารรายการซ่อมที่ชัดเจนเช่น ใบแจ้งซ่อม, ใบรับรถ, ใบส่งคืนรถ, รายละเอียดการซ่อม โดยระบุวันที่และรายละเอียดให้ชัดเจนและควรทำสำเนาเก็บไว้
- สำเนาบัตรประชาชนของผู้เอาประกันภัยรถยนต์
- สำเนากรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ (พ.ร.บ.) ของผู้เอาประกันภัยรถยนต์ที่เข้าซ่อม
- เอกสารค่าใช้จ่ายระหว่างรอซ่อมรถ (ถ้ามีหลักฐานของการจ่ายจะทำให้มีน้ำหนักช่วยในการพิจารณามากขึ้น) อาทิเช่น
- เอกสารค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับการเดินทางที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากไม่มีรถ
- เอกสารรายได้ที่ขาดหายไปจากการประกอบอาชีพ (เช่น กรณีขับรถรับจ้าง / การขับแท็กซี่)
การดำเนินการเรียกร้องค่าขาดประโยชน์ (ติดต่อบริษัทประกันภัยคู่กรณี)
- ติดต่อฝ่ายสินไหมทดแทนเพื่อแจ้งเจตจำนงค์ว่าต้องการเรียกสินไหมค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถยนต์
- บริษัทประกันภัยขอเอกสารหลักฐานที่เราได้เตรียมไว้แล้วตามที่กล่าวมาด้านบน โดยเราต้องติดต่อขอรายละเอียดเช่น เลขที่รับเรื่อง / หมายเลขผู้ติดต่อ / เลขที่เคลม เพื่อดำเนินการติดตาม หากไม่ได้รับการติดต่อกลับมาภายใน 2 วัน
- บริษัทประกันภัยจะติดต่อกลับมาเพื่อต่อรองค่าสินไหมค่าขาดประโยชน์ที่ได้เรียกมา กรณีหากไม่เป็นธรรมในค่าสินไหม สามารถร้องต่อ คปภ. เพื่อต่อรองค่าสินไหมได้
- หลังจากตกลงค่าสินไหมเป็นที่พอใจกันทั้งสองฝ่ายแล้ว บริษัทประกันภัยจะส่งเอกสารใบรับค่าชดเชยมาให้ลงนามแล้วส่งกลับคืนไปยังบริษัทประกันภัย
- ภายใน 7 วัน บริษัทประกันภัยจะออกเช็คค่าสินไหมค่าขาดประโยชน์ระหว่างซ่อมรถมาให้ หรือ บางกรณีอาจจะแจ้งให้เราไปรับด้วยตัวเองที่บริษัทประกันภัย
ตัวอย่าง เอกสารหนังสือขอเรียกสินไหมทดแทนค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถยนต์ระหว่างซ่อมรถ